วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ทางไปเอาเงินล้านอย่างมีความสุข(3)

          สวัสดีอีกครั้งนะครับ ก่อนที่เราจะพูดถึงหัวข้อ "ทางไปเอาเงินล้านอย่างมีความสุข(3)" ก็ขอให้ทุกท่านทำความเข้าใจ "ทางไปเอาเงินล้าน..1 - 2 " ก่อนนะครับ  ถ้าท่านพร้อมแล้ว เราก็ไปต่อกันเลยนะครับ
ตอนที่ ๑ ทฤษฎี : การเป็นเศรษฐีเงินล้านอย่างมีความสุข

                ในตอนที่ ๑ นี้ ข้าพเจ้าจะกล่าวถึง ทฤษฎี : การเป็นเศรษฐีเงินล้านอย่างมีความสุข  ซึ่งเป็นทฤษฎีที่ข้าพเจ้าได้สังเคราะห์ขึ้นมาจากการ ศึกษา ค้นคว้า และ การวิจัยเชิงคุณภาพ เรื่อง ปัจจัยที่ส่งผลให้บุคคลกลายเป็นเศรษฐีเงินล้านอย่างมีความสุข  ซึ่งผลการวิจัย พบว่า ปัจจัยที่ส่งผล คือ การใช้แนวทางเชิงสร้างสรรค์ สร้าง สิ่งที่มีประโยชน์และมีคุณค่าสูงสุดเพื่อนำไป แลก เงินล้าน  โดยทุกฝ่ายได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน(Win Win) เน้นหลัก ปรัชญา การลงมือทำอย่าง ง่ายดาย ผ่อนคลาย ดีต่อสุขภาพ เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ทุกฝ่ายได้รับสิ่งที่มีประโยชน์และมีคุณค่าสูงสุดร่วมกัน(Win Win) และมุ่งสร้างทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดรายได้(เดือนละล้าน)โดยไม่ต้องทำงาน และข้าพเจ้าก็ได้สรุปออกมาเป็นขั้นตอนทั้งหมด ๓ ขั้นตอน คือ
                      ขั้นตอนที่ ๑  การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจ
นอย่างสร้างสรรค์
                      ขั้นตอนที่ ๒ การวางแผนเชิงสร้างสรรค์
                      ขั้นตอนที่ ๓ การลงมือทำอย่างสร้างสรรค์
                นับจากวินาที่นี้ไป ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะให้ท่าน อ่านและตีความหมายข้อความต่างๆที่ปรากฏอยู่ในบทความนี้ให้เข้าใจ โดยทำจิตใจของท่านให้ว่างจากทุกสิ่ง อย่าเพิ่งมีข้อโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น สิ่งที่ท่านต้องทำก็คือ เปิดใจเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อท่านจะได้เป็นเศรษฐีเงินล้านอย่างมีความสุข  ข้าพเจ้าหวังว่าท่านคงพร้อมที่จะเรียนรู้แล้ว  เชิญทุกท่านพบกับคำถามที่จะเปลี่ยนชีวิตท่านให้เป็นเศรษฐีเงินล้านอย่างมีความสุข ณ บัดนี้

      ท่านรู้หรือไม่ว่า มนุษย์ทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ มีสิทธิ์ที่จะมีเงินล้าน ?
      ท่านรู้หรือไม่ว่า ทางไปเอาเงินล้าน มีอยู่จริง ?
      ท่านรู้หรือไม่ว่า ทรัพยากรที่จะทำให้ท่านมีเงินล้าน มีอยู่มากมายมหาศาล ?

                ถ้าท่านเพิ่งเคยอ่านคำถามนี้เป็นครั้งแรก ข้าพเจ้าเชื่อเหลือเกินว่า ท่านมีข้อโต้แย้งในใจ แต่ไม่เป็นไรครับ ข้าพเจ้าจะพยายามทำทุกวิถีทาง ที่จะทำให้ข้อโต้แย้งในใจของท่านหายไป  แต่มีข้อแม้อยู่อย่างเดียว คือ ท่านต้องเปิดใจเรียนรู้อย่างเต็มใจ และพร้อมที่จะทำตามขั้นตอนการปฏิบัติทั้งหมดที่ข้าพเจ้าให้แนวทางไว้อย่างไม่ลังเลสงสัยใดๆทั้งสิ้น ข้าพเจ้าขอใช้คำว่าท่านต้องมี ศรัทธา 

มนุษย์ทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ มีสิทธิ์ที่จะมีเงินล้าน
                มีเพียงอุปสรรคเดียวเท่านั้นที่จะทำให้บุคคลใดก็ตาม ไม่ได้เป็นเศรษฐีเงินล้าน คือ บุคคลนั้น ไม่ได้อยากมีเงินล้านอย่างแท้จริง  ขอให้ท่านอ่านอีกครั้งนะครับ  มีเพียงอุปสรรคเดียวเท่านั้นที่จะทำให้บุคคลใดก็ตาม ไม่ได้เป็นเศรษฐีเงินล้าน คือ บุคคลนั้น ไม่ได้อยากมีเงินล้านอย่างแท้จริง  ข้าพเจ้าขอเน้นที่คำว่า อย่างแท้จริง
                แน่นอนว่าท่านก็คงจะมีข้อโต้แย้งว่า ทำไมข้าจะไม่อยากมีเงินล้าน แต่เป็นเพราะข้า......... นี่คือข้อโต้แย้งของคน ๙๐% ทั่วโลก  ถูกต้องครับ ที่มนุษย์ทุกคนอยากเป็นเศรษฐีเงินล้านกันทั้งนั้น แต่ประเด็นของข้าพเจ้าที่จะเน้นย้ำ คือ  ท่านไม่ได้ต้องการที่จะมีเงินล้านอย่างแท้จริง  ถ้าท่านมีความต้องการอย่างแท้จริง ท่านก็เป็นเศรษฐีเงินล้านแล้วป่านนี้  ทั้งๆที่สิทธิ์ที่จะมีเงินล้านเป็นของมนุษย์ทุกคนในโลกนี้   ซึ่งการเป็นเศรษฐีเงินล้านไม่เกี่ยวข้องกันกับ.....
-          ไม่มีเงินทุน
-          ไม่มีเวลา
-          ไม่มีการศึกษา / ใบปริญญา
-          อายุ เด็กเกินไป / แก่เกินไป
-          พิการมาแต่กำเนิด /พิการจากอุบัติเหตุ / ป่วยเป็นโรค
-          ฯลฯ
                ทั้งหมด ทั้งหลาย ทั้งปวงเหล่านี้ล้วนแต่เป็นข้ออ้างทั้งสิ้น! ทำไมข้าพเจ้าถึงกล้าบอกกับท่านว่า เงินทุน เวลา การศึกษา อายุ สุขภาพ ฯลฯ ล้วนแล้วแต่เป็นข้ออ้างทั้งสิ้น เราตกลงกันแล้วนะว่า ท่านต้องเปิดใจเรียนรู้อย่างเต็มใจ และพร้อมที่จะทำตามขั้นตอนการปฏิบัติทั้งหมดที่ข้าพเจ้าให้แนวทางไว้อย่างไม่ลังเลสงสัยใดๆทั้งสิ้น  ถ้าท่านไม่พร้อมที่จะเรียนรู้ก็จงเลิกอ่านและไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ เพราะท่านอาจจะรู้สึกหงุดหงิดถ้าท่านฝืนอ่านข้อความต่อๆไป การเรียนรู้ที่ดีที่สุด ท่านต้องอยู่ในสภาวะ จิตใจผ่อนคลาย สบายๆ ไม่เครียด  พร้อมแล้วก็ไปต่อกันเลยครับ

                เงิน : ไม่มีเงินทุน เป็นข้ออ้างข้อแรกที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ผู้ดำรงชีวิตอยู่อย่างยากไร้  (ซึ่งรวมถึงตัวข้าพเจ้าในช่วงเวลาก่อนที่จะรู้จัก ทฤษฎี : การเป็นเศรษฐีเงินล้านอย่างมีความสุข ถึงขนาดเป็นหนี้ทั้งในและนอกระบบสูงถึง ๒,๐๐๐,๐๐๐บาท เลยทีเดียว)           สาเหตุ ที่ทำให้ท่านประสบปัญหาเรื่องเงินทุน คือ
                  ๑) ท่านไม่เคยเตรียมการที่จะเป็นเศรษฐีเงินล้านเลยตลอดชั่วชีวิต นั่นคือ
                               ๑.๑)   การออมเงิน และ
                               ๑.๒) นำเอาเงินที่ออมนั้นไปบริหารให้มันงอกเงยขึ้นมาเป็นทวีคูณ
                  ๒) ท่านไม่เคยเรียนรู้ว่า เงิน ๑,๐๐๐ บาท สามารถทำให้กลายเป็นเงิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ได้ (หรือบางทีอาจจะใช้เงินน้อยกว่า ๑,๐๐๐ บาทก็ได้) ซึ่งถ้าท่านเปิดใจเรียนรู้และทำตาม แนวทางของข้าพเจ้า ท่านจะไม่ผิดหวังแน่นอน
                  ๓) ท่านไม่เคยเรียนรู้เทคนิค/วิธีการ ที่จะใช้เงินคนอื่น(ธนาคาร/การร่วมหุ้น/การรวมกลุ่มสหกรณ์ / ฯลฯ) มาใช้ในการดำเนินธุรกิจของท่าน หรือรู้แต่ท่านก็ไม่เคยลงมือทำ ท่านถนัดแต่เรื่องใช้เงิน(ซื้อสิ่งที่ไร้ค่า) แต่ท่านไม่สนใจที่จะลงทุนเงินเลย!”

                เวลา : ไม่มีเวลา เป็นข้ออ้างยอดฮิตข้อที่สอง ที่ปิดกั้นตัวท่านเองไม่ให้เป็นเศรษฐีเงินล้านอย่างมีความสุข (ซึ่งรวมทั้งตัวข้าพเจ้าเองที่ใช้เวลาไปกับกิจกรรมที่ไม่ได้ทำให้เป็นเศรษฐีเงินล้านเลยตลอดระยะเวลาหลายปี) สาเหตุ ที่ทำให้ท่านประสบปัญหาในเรื่องเวลา คือ
       ๑) ท่านไม่เคยรู้มาก่อนว่า เวลา มีค่ากว่า เงิน  ขอย้ำอีกครั้งนะครับ ว่า เวลา มีค่า กว่า เงิน คนยากจนและชนชั้นกลาง เก่งเรื่องการใช้เวลา แต่เศรษฐีเงินล้านผู้มีความสุข เก่งในเรื่องการลงทุนเวลา การลงทุนเวลาของเศรษฐีเงินล้านผู้มีความสุข มีอยู่ด้วยกัน ๕ รูปแบบ คือ
                  ๑.๑) ใช้เวลาเพื่อตัวเอง(สุขภาพกาย สุขภาพใจ สุขภาพจิตวิญญาณ)
                  ๑.๒) ใช้เวลาเพื่อการเรียนรู้ (สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการเป็นเศรษฐีเงินล้านผู้มีความสุข)
                  ๑.๓) ใช้เวลาเพื่อการสร้างเครือข่าย (มนุษยสัมพันธ์)
                  ๑.๔) ใช้เวลาเพื่อการลงทุนเงิน (วิเคราะห์ สังเคราะห์ และวางแผนเชิงสร้างสรรค์เพื่อทำให้เงินงอกเงยขึ้นมาเป็นทวีคูณ)
                  ๑.๕) ใช้เวลาเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่มีประโยชน์และคุณค่าสูงสุดให้กับสังคม
            ๒) ท่านไม่เคยรู้มาก่อนว่า ท่านใช้เวลาหมดไปกับกิจกรรมที่ไม่ได้ทำให้ท่านเป็นเศรษฐีเงินล้านผู้มีความสุขเลย  เช่น การดูทีวี  การเล่นเกมคอมพิวเตอร์  การเที่ยวกลางคืน  การดื่มเหล้าเมายา  การเล่นการพนัน  การพูดคุยเรื่องไร้สาระ  ฯลฯ.... แต่เมื่อไหร่ที่ท่านรู้จักวิธีบริหารเวลา ท่านจะใช้เวลานิดเดียว แต่ได้ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่มากมายหลายเท่า ใช้เวลาน้อยที่สุด แต่ได้ผลลัพธ์มากที่สุดและมีคุณภาพที่สุดซึ่งท่านจะได้เรียนรู้จากการอ่านบทความนี้อย่างแน่นอน(ใจเย็นๆ..)        
                การศึกษา : ไม่มีการศึกษา / ใบปริญญา  เป็นข้ออ้างยอดฮิตข้อที่สาม ซึ่งทั้งๆที่จริงแล้ว การเป็นเศรษฐีเงินล้านผู้มีความสุข ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอันใดเลยกับการเรียนจบ ปริญญาตรี ปริญญาโท หรือ ปริญญาเอก   สาเหตุ ที่ท่านเอาวุฒิทางการศึกษามาอ้าง เป็นเพราะว่า
               ๑) การศึกษาในระบบที่มีอยู่ในโลกนี้  สอนให้ท่านเป็นลูกจ้าง  ไม่ได้สอนให้ท่านเป็นเจ้านาย  อีกครั้งนะครับ  โรงเรียนส่วนใหญ่สอนให้ท่านเป็นลูกจ้าง ไม่ได้สอนให้ท่านเป็นเจ้านาย เช่น ประโยคเด่นๆ ตั้งใจเรียนหนังสือให้เก่งๆ แล้วจะได้ทำงานดีๆ/ได้รับราชการเป็นเจ้าคนนายคน  ซึ่งทั้งหมดนี้ ไม่มีข้อความไหนเลยที่จะบอกว่า เจ้าจงตั้งใจเรียนรู้ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่จะทำให้เจ้ามีเงินล้าน แล้วเจ้าจะได้เป็นเศรษฐีเงินล้านผู้มีความสุข มีแต่บอกว่าให้ไปทำงานเป็นลูกจ้าง(ไม่ว่าจะของ รัฐ หรือ เอกชน)
               ๒) ท่านไม่เคยเรียนรู้เลยว่า หัวใจสำคัญของการเป็นเศรษฐีเงินล้านผู้มีความสุข ไม่ใช่ใบปริญญา แต่อยู่ที่ การแก้ปัญหาให้ผู้คนให้ได้มากที่สุดต่างหาก ที่จะทำให้ท่านเป็นเศรษฐีเงินล้านผู้มีความสุขได้  เพราะ เงิน อยู่กับ คน และ คนจะจ่ายเงินให้กับใครก็ตามที่แก้ปัญหาให้กับเขาได้  เช่น 
                 คนหิวข้าว --> ไป ร้านอาหาร / ไปตลาดซื้ออาหารมาประกอบเอง  
                 คนไม่สบาย --> ไป หาหมอ/ไปร้านขายยาเพื่อซื้อยามาทาน  
                 คนอยากมีบ้าน --> ไป หาบ้านจัดสรร / ไปหาช่าง/วิศวกรเพื่อสร้างบ้าน
        นอกจากนี้ ยังมีตัวอย่างอีกมากมาย ที่บ่งบอกว่า คนจะจ่ายเงินให้กับใครก็ตามที่แก้ปัญหาให้กับเขาได้ สิ่งที่ท่านต้องทำ คือ สร้างสรรค์สิ่งที่จะนำไปแก้ไขปัญหาให้กับคนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วเงินจะไหลมาเทมาอย่างไม่ขาดสาย   มีข้อแม้อย่างเดียว คือ     สิ่งนั้นต้องมีประโยชน์และมีคุณค่าสูงสุด เพื่อทั้งคู่จะได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน(Win Win) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของบทความนี้เลยทีเดียว
            อายุ : เด็กเกินไป / แก่เกินไป เป็นข้ออ้างยอดฮิตข้อที่สี่ ที่มนุษย์นำมาปิดกั้นตัวเองจากการเป็นเศรษฐีเงินล้านผู้มีความสุข   สาเหตุ ที่ท่านนำเอาอายุมาเป็นข้ออ้าง คือ
            ๑) ท่านไม่รู้ว่า หัวใจสำคัญของการมีเงินล้าน คือ ระยะเวลา + ผลตอบแทนจากการลงทุน/ทำธุรกิจ(อยู่ในบทนำ) หมายถึง ยิ่งท่านใช้เงินลงทุนเป็นระยะเวลานานเท่าใด? และ ได้ผลตอบแทน(%)ต่อปีมากแค่ไหน? ยิ่งจะทำให้ท่านมีรายได้เพิ่มยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ  เช่น
                      ท่านออมเงินเดือนละ ๔,๐๐๐ บาท (ปีละ ๔๘,๐๐๐บาท) ท่านต้องใช้เวลา ๒๐ ปีถึงจะกลายเป็นเงิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท (อยู่ในบทนำ)   
              แต่ถ้าท่านนำเอาเงินเดือนละ ๔,๐๐๐ บาท (ปีละ ๔๘,๐๐๐บาท) นั้น มาลงทุน/ทำธุรกิจ เพื่อให้เงินงอกเงยขึ้นมาเป็นทวีคูณ  โดยกำหนดผลตอบแทน ๑๐% , ๑๕% หรือ ๒๐% : ปี  ท่านจะมีรายได้ตามตารางที่ ๓
ตารางที่ ๓ : ผลตอบแทนจากเงินลงทุนเดือนละ ๔,๐๐๐ บาท

                จากตารางที่ ๓ จะเห็นได้ว่า ในระยะเวลาที่เท่ากัน คือ ๒๐ ปี  การออมเงินอย่างเดียวทำให้เรามีเงิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท แต่ถ้าเราเอาเงินออมไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทน ๑๐% , ๑๕% หรือ๒๐% : ปี จะทำให้เรามีเงิน ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท  ๕,๖๐๐,๐๐๐ บาท หรือ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลมาจาก การสร้างพลังทวีคูณของเงินด้วยการลงทุน/ทำธุรกิจ
                ดังนั้น รายได้ที่ปรากฏนี้ ไม่มีส่วนไหนเลยเกี่ยวข้องกับอายุมาก หรือ อายุน้อยเลย  แต่ขึ้นอยู่กับว่า ท่านจะเริมต้นออมเงินและนำเงินนั้นมาสร้างพลังทวีคูณด้วย การลงทุน/ทำธุรกิจตอนอายุเท่าไหร่? ต่างหาก ข้อคิด คือ เริ่มต้นก่อน รวยก่อน (ท่านอาจจะสงสัยว่า แล้วจะ ลงทุน / ทำธุรกิจอะไรดีล่ะ ถึงจึงมีรายได้ดังตัวอย่างที่ปรากฏ ...  ใจเย็นๆไว้ก่อนครับ  เดี๋ยวท่านจะได้รู้แน่นอน)
                ๒) ท่านอาจจะไม่รู้หรือรู้ไม่จริง เกี่ยวกับ กฎ : การให้เงินทำงานแทนเรา กฎนี้กำหนดไว้ว่า การนำเงินไปลงทุน / ทำธุรกิจครั้งเดียว แล้วปล่อยให้เงินมันงอกเงยขึ้นมาเป็นทวีคูณ ในรูปของ ดอกเบี้ยทบต้น / กำไรทบต้น ท่านอาจจะบอกว่า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับปัญหาเกี่ยวกับ อายุ เด็กเกินไป / แก่ เกินไป?   คำตอบคือเกี่ยวอย่างแน่นอน เหตุผลก็คือ  ท่านอยากเป็นเศรษฐีเงินล้านตอนแก่ หรือตอนหนุ่มล่ะครับ?  ก่อนที่ท่านจะตอบ ขอให้ท่านได้โปรดพิจารณาตารางที่ ๔ ดูให้ดีซะก่อน
ตารางที่ ๔ :  กฎ : การให้เงินทำงานแทนเรา 


                จากตารางที่ ๔ ท่านจะเห็นพลังของ ดอกเบี้ยทบต้น / กำไรทบต้น ได้เป็นอย่างดี ท่านลงทุน ๑,๐๐๐ บาท(ครั้งเดียว ผลตอบแทน ๑๕% : ปี )  ผ่านไป ๒๒ ปี ท่านมีเงิน ๒๑,๖๔๕ บาท, ท่านลงทุน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่านไป ๒๒ ปี ท่านมีเงิน ๒๑๖,๔๔๗ บาท หรือ ท่านลงทุน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ผ่านไป ๒๒ ปี ท่านจะมีเงิน ๒,๑๖๔,๔๗๕ บาท  นี่แหละคือ สูตรที่สร้างเศรษฐีมาแล้วทั่วโลก  
                ท่านสังเกตหรือไม่ ว่าทำไมข้าพเจ้าถึงยกตัวอย่างมาแค่ ๒๒ ปี ? และทำไมกำหนดผลตอบแทนเป็น ๑๕% : ปี ?  เหตุผลก็คือ  
                ๑) สมมติว่าท่านมีลูก ท่านส่งให้เขาเรียนหนังสือ เขาจะจบการศึกษาระดับปริญญาตรีเมื่ออายุ ๒๒ ปีโดยประมาณ ถ้าท่านมอบของขวัญให้เขาตั้งแต่วันที่เขาเกิดด้วยการนำเงินไป ลงทุน / ทำธุรกิจ เพื่อเขาจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท แล้วอาศัยพลังทวีคูณของ ดอกเบี้ยทบต้น / กำไรทบต้น ผ่านไป ๒๒ ปี ท่านก็สามารถจะมอบของขวัญสุดพิเศษให้เขา เป็นเงิน ๒,๑๖๔,๔๗๕ บาท  ได้อย่างง่ายดาย  ท่านและลูกของท่านจะมีความสุขแค่ไหน เขาอาจจะเอาเงินจำนวนนั้นไปลงทุน หรือเอาความรู้ที่เขาได้รับจากท่านไปสอนลูกสอนหลานได้อีกตั้งหลายรุ่น ประโยชน์ก็เกิดขึ้นกับทุกคน
                ๒) ผลตอบแทนที่กำหนดไว้ว่า ๑๕%  : ปี  มีเหตุผลมาจากการที่ท่านไม่อยากลงทุนในหุ้น / ตลาดหลักทรัพย์  หรือไม่อยากเหนื่อยกับการทำธุรกิจ  ท่านอาจจะนำเอาเงินออมจำนวนดังกล่าว มาปล่อยกู้ให้กับ  เกษตรกร  พ่อค้าแม่ค้า หรือคนที่มีบุคลิกนิสัยที่ดี มีน้ำใจ มีใจรักที่จะทำธุรกิจ /ประกอบอาชีพที่สุจริต โดยคิดดอกเบี้ย ๑๕% : ปี ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งยังเป็นการให้โอกาสคนดีได้มีงานทำ ท่านจะได้ทั้งเงินและได้รับความสุขอย่างแน่นอน
                ท่านอย่าลืมว่า กฎ : การให้เงินทำงานแทนเรา ที่หมายถึง การนำเงินไปลงทุน / ทำธุรกิจครั้งเดียว แล้วปล่อยให้เงินมันงอกเงยขึ้นมาเป็นทวีคูณ ในรูปของ ดอกเบี้ยทบต้น / กำไรทบต้น ไม่ได้กำหนดไว้ว่า จะต้องเริ่มต้นที่เงินทุนจำนวนเท่าไหร่?  และใช้ระยะเวลานานแค่ไหน? ซึ่งท่านเท่านั้นที่จะตอบได้ว่า แบบไหนที่เหมาะสมกับท่านอย่างแท้จริง ซึ่งบทความต่อไปท่านจะได้ทราบแนวทางทั้งหมด (ใจเย็นๆนะครับ อย่าเพิ่งใจร้อน...)

        สุขภาพ : พิการมาแต่กำเนิด / พิการจากอุบัติเหตุ / ป่วยเป็นโรค เป็นข้ออ้างยอดฮิตข้อสุดท้ายที่ข้าพเจ้านำมายกตัวอย่าง  สาเหตุ ที่ท่านนำเอาปัญหาสุขภาพมากล่าวอ้าง ก็เนื่องมาจาก
         ๑) ท่านไม่ยอมเปิดใจเรียนรู้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้  มีสิ่งดีๆ ซ่อนอยู่ในนั้นเสมอ  สิ่งที่ท่านต้องทำ  ก็เพียงแค่ สร้างและใช้ทัศนคติเชิงบวกในการดำเนินชีวิต  หากว่าท่านเคยดู
                - วงดนตรีคนตาบอด
                - ดูการแข่งขันกีฬาคนพิการ(ระดับโลก)
                - รู้จักหรือเคยอ่านประวัตินักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ  
         ถึงแม้พวกเขาเหล่านั้นจะมีความพิการทางร่างกาย แต่ความสามารถที่ซ่อนอยู่และรอการค้นพบจากตัวเขาเอง  ก็ได้ปรากฏออกมาเป็นแสงสว่างโชติช่วง   บางคนเล่นดนตรีเก่งกว่าคนธรรมดาที่มีร่างกายปกติ  เล่นกีฬาได้เก่งกว่า มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงกว่า ฯลฯ  บางคนป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย แต่ก็เอาชนะโรคร้ายต่างๆได้ด้วยกำลังใจที่เข้มแข้ง แล้วท่านละครับทำไมจะไม่นำพาตัวเองไปสู่เส้นทางที่ถูกต้องและไปเอาเงินล้านอย่างมีความสุขละครับ
          ๒) ท่านอาจจะไม่รู้ว่า  ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหนในโลกนี้ ท่านก็สามารถจะมีเงินล้านอย่างมีความสุขได้  ไม่ว่าจะอยู่บ้าน  อยู่ที่ทำงาน  อยู่สวนสาธารณะ หรือเดินทางท่องเที่ยวอยู่ที่ไหนๆก็ได้ในโลกนี้  ท่านก็สามารถจะมีเงินล้านได้   ท่านอย่าลืมนะครับว่า บทความนี้มีชื่อว่า ทางไปเอาเงินล้านอย่างมีความสุข หัวใจสำคัญ คือ เพียงแค่ท่านทำตามคำแนะนำของข้าพเจ้า ท่านจะสามารถ สร้างสิ่งที่สร้างสรรค์เพื่อนำไปแลกเงินล้านและมีความสุขไปพร้อมกันได้ ทุกที่และทุกเวลา  ซึ่งสิ่งนั้นข้าพเจ้าได้บอกไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็อยากจะบอกอีกครั้ง คือ
     ๒.๑) สินค้า/บริการ   แลก  เงินล้าน  (เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์/สิทธิบัตร)
     ๒.๒) เครือข่าย       แลก  เงินล้าน  (เป็นเจ้าของเครือข่าย/แฟรนไชส์)
     ๒.๓) เงิน            แลก  เงินล้าน  (เป็นผู้ถือหุ้น/ผู้ถือกรรมสิทธิ์)
     ๒.๔) พื้นที่          แลก  เงินล้าน  (เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์)
     ๒.๕) เว็บไซต์(Web Site) แลก  เงินล้าน  (เป็นเจ้าของเครื่องจักรทำเงิน๒๔ช.ม.)

                สิ่งที่ท่านต้องเตรียมไว้ให้พร้อม คือ ความศรัทธาที่มีต่อตัวข้าพเจ้า ความศรัทธาที่มีต่อแนวทางไปเอาเงินล้านอย่างมีความสุขของข้าพเจ้า และความศรัทธาที่มีต่อตัวของท่านเอง ว่า ท่านก็สามารถที่จะเป็นเศรษฐีเงินล้านอย่างมีความสุขได้ 
                ถ้าตอนนี้ ท่านยังไม่ศรัทธา  ท่านจงปิดบทความนี้ไปซะ เลิกอ่าน และไปทำอย่างอื่นตามวิถีชีวิตของท่านที่เคยดำเนินมา  ข้อคิดที่จะฝากให้ท่านก่อนไปก็คือ การดำเนินชีวิตของท่าน ในช่วงระยะเวลา ๑ ๕ ปีที่ผ่านมา ทำให้ท่าน มีชีวิตอยู่ ณ ตอนนี้  ถ้าท่านยังดำเนินชีวิตแบบเดิมๆนี้ ในอีก   ๑ ๕ ปีต่อจากนี้ ท่านก็ยังจะเป็นเหมือนเดิม...”  แต่ถ้าท่าน ณ ตอนนี้ พร้อมและศรัทธาในตัวข้าพเจ้าแบบไม่ลังเลสงสัย  ข้าพเจ้าก็ขอจูงมืออันสูงเกียรติของทุกท่าน พบและสัมผัสกับหัวข้อต่อไปได้เลยครับ


สำหรับวันนี้ เอาไว้แค่นี้ก่อนนะครับ เอาไว้ติดตามตอนต่อไปนะครับ
อ.นเรศ  สีละมัย
http://www.richmoneyhappily.com/




               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อยากรวย อยากเป็นเศรษฐี ต้องดูวิดีโอนี้ ด่วน!

ผู้สนับสนุน Blog

Google Search